
เกร็ดควรรู้สำหรับการขับขี่รถในประเทศลาว
ประเทศลาวนั้นขับขี่สวนกันเลนซ้าย และรถภายในประเทศทุกคันจะขับพวงมาลัยซ้าย หากนำรถสวนตัวไปควรใช้ความระมัดระวัง ปรับตัวให้คุ้นเคยก่อน แต่กฎจราจร และรูปป้ายสัญญาณต่างๆ ในประเทศลาวนั้นเป็นไปตามระบบของสากล ตามเส้นทางต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีการจำกัดความเร็วเช่น หากวิ่งในเขตที่เป็นชุมชน แขวง (จังหวัด) เมือง (อำเภอ) บ้าน (หมู่บ้าน) จะจำกัดความเร็วสูงสุดไม่เกิน 40 กิโลเมตร/ ชั่วโมง หากเป็นเส้นทางหลวงระหว่างแขวงต่อแขวง, เมืองต่อเมือง หรือบ้านต่อบ้าน จะจำกัดความเร็วสูงสุดไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ ชั่วโมง (สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล หรือรถตู้ขนาดไม่เกิน 15 ที่นั่ง และไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ ชั่วโมงสำหรับรถบัสโดยสาร) ซึ่งหลายเส้นทางจะมีเจ้าหน้าที่ดักตรวจจับความเร็วด้วย ซึ่งหากขับขี่รถโดยใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด จะต้องถูกจับ และเสียค่าปรับเป็นเงินพอสมควร ซึ่งทั้งหมดข้างต้นเป็นกฎระเบียบที่ผู้ขับขี่ หรือนักเดินทางที่ต้องการนำรถเข้ามาท่องเที่ยวต้องรู้ เพราะมีหลายๆ ครั้งที่เจอป้ายสัญญาณบอกที่ไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ มีแต่เพียงข้อความที่เป็นภาษาลาวเท่านั้น ดังนั้นผู้ขับขี่ หรือนักเดินทางที่ไม่สันทัดในการอ่านภาษาลาว อาจไม่เข้าใจว่าป้ายเหล่านั้นกำลังบอก หรือเตือนในเรื่องใด ผมได้รวบเกร็ดความรู้เล็กๆ เกี่ยวกับการขับรถเที่ยวลาวดังนี้
•ปั๊มน้ำมันในลาวก็คือ ปั๊มจริงๆ มีขายแต่น้ำมัน จะไม่มีร้านอาหาร ร้านปะยาง หรืออู่ซ่อมรถอยู่ในปั๊ม แต่ปั๊มหลายแห่งมีตู้แช่เครื่องดื่มไว้คอยบริการ
•กฎหมายจราจร และการขนส่งทางทางบกของประเทศลาวฉบับที่เพิ่งออกมาใหม่ ระบุว่าห้ามรถทุกชนิดติดตั้งไฟสปอร์ตเพิ่มเติม หากตรวจพบจะถูกปรับ และต้องถอดออกทันที (ยกเว้นไฟสปอร์ตไลท์ตัดหมอกซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมากับรถจากโรงงานผู้ผลิต)
•ถนนส่วนใหญ่ในประเทศลาวจะเป็นแบบสองเลน (รถแล่นสวนกัน) ความเร็วที่ปลอดภัยจะอยู่ระหว่าง 30-50 กิโลเมตร/ ชั่วโมง (เส้นทางในภาคเหนือ ถนนร้อยละ 90 จะไม่มีไหล่ทาง, เส้นทางภาคใต้ ถนนส่วนใหญ่มีไหล่ทางเพียงแคบๆ)
•ในประเทศลาวโดยเฉพาะการขับขี่ระหว่างเมือง ถนนคือทุกสิ่งทุกอย่างของชาวบ้าน คือเป็นทั้งสนามเด็กเล่น ที่เลี้ยงสัตว์ หรือลานตากพืชผลทางการเกษตร ฯลฯ กรุณาลดความเร็ว และใช้ความระมัดระวังอย่างสูง ขณะแล่นผ่านหมู่บ้านต่างๆ
•สะพานข้ามแม่น้ำ ห้วย หนอง คลอง บึงในประเทศลาว ในเส้นทางภาคเหนือส่วนมากเป็นสะพานแคบ หากมองเห็นรถที่แล่นสวนมากำลังขึ้นสะพาน (โดยเฉพาะรถ 10 ล้อ หรือรถทัวร์โดยสาร) อีกฝั่งต้องจอดรอ เพราะรถไม่สามารถแล่นสวนกันบนสะพานได้ แต่เส้นทางภาคใต้สะพานจะมีขนาดกว้างกว่า สามารถวิ่งสวนกันได้ไม่มีปัญหา
•การขับขี่รถอยู่บนทางที่คดเคี้ยว (ภาคเหนือ) ทัศนวิสัยการมองเห็นไม่กว้างไกลโดยตลอด หากพบเห็นกิ่งไม้วางอยู่บนถนน เป็นระยะๆ แสดงว่าข้างหน้ามีรถจอดเสีย หรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นข้างหน้า ต้องชะลอความเร็ว ส่วนทางภาคใต้ทัศนวิสัยค่อนข้างเคลียร์เนื่องจากถนนส่วนใหญ่จะเป็นทางตรง
•หากท่านประสบอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกับรถมอเตอร์ไซด์ กฎหมายของลาวจะถือว่ารถใหญ่เป็นฝ่ายผิดเสมอ ดังนั้นควรระมัดระวังเมื่อเห็นรถมอเตอร์ไซด์กำลังจะออกมาจากซอย หรือจากทางร่วม ทางแยกต่างๆ
•หากต้องการจอดเพื่อพักรถ หรือพักผ่อนอิริยาบถ ต้องจอดในที่ชุมชน หรือในเมือง หากไม่จำเป็นจริงๆ อย่าจอดพักรถข้างทางขณะวิ่งระหว่างเมือง โดยเฉพาะทางภาคเหนือซึ่งภูมิประเทศจะเป็นป่า และภูเขาสูง ประเทศลาวมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงก็จริง แต่บางจุดก็ยังมีความอ่อนไหว และยังมีข่าวการเคลื่อนไหวของกองกำลังชนกลุ่มน้อยอยู่เป็นระยะๆ
•ระมัดระวังในการขับเข้าโค้งแบบหักศอก ซึ่งมีเหลี่ยมเขาบังทัศนวิสัยข้างหน้า เพราะท่านอาจเจอรถที่แล่นสวนมา แซงกันในทางโค้งได้อย่างเป็นเรื่องปกติ
•การขับรถผ่านทางแยก ทางร่วม (ที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร) ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง ถึงแม้ท่านจะอยู่บนถนนซึ่งเป็น “ทางเอก” ก็ตาม
•การเดินทางในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะหากต้องเดินทางผ่านทางบนภูเขาเป็นส่วนใหญ่ ควรเผื่อเวลาในการเดินทางให้มากขึ้นเพราะถ้าฝนตก ท่านอาจเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้หลายรูปแบบ เช่น หมอกลงจัดจนไม่สามารถจะขับขี่ต่อไปได้, น้ำป่าจากภูเขากัดเซาะทางขาด หรือชำรุด, ดินภูเขาสไลด์ลงมาบนถนน จนไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ ต้องจอดรอจนกว่าจะมีรถตักมาเกรดทางใหม่ ซึ่งบางทีอาจต้องเสียเวลาหลายชั่วโมง หรืออาจเป็นวัน ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
•การขับขี่รถทางไกลระหว่างเมืองในตอนกลางคืน ไม่ได้มีข้อห้าม และสามารถกระทำได้ แต่ผู้ขับขี่ควรมีประสบการณ์การขับรถในทางนั้นๆ มาก่อน หากเป็นประสบการณ์ครั้งแรก แนะนำว่าหลีกเลี่ยงจะดีกว่า
•ระหว่างทางหากรถเสีย หรือเกิดอุบัติเหตุ ถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้หมู่บ้านก็ตาม หากต้องการขอความช่วยเหลือ ควรโบกรถที่เทียวทางไป-มาจะดีที่สุด (จากประสบการณ์ตรง คนลาวแทบทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อเห็นรถท่านเสีย หรือเกิดอุบัติเหตุ และต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาจะจอดรถ รีบลงมาช่วยเหลือท่านอย่างมีน้ำใจ และเต็มใจ) เพราะหมู่บ้านต่างๆ เหล่านั้นเป็นหมู่บ้านชนเผ่า ซึ่งภาษาหลักที่ใช้ในการสื่อสารไม่ใช่ภาษาลาว! พวกเค้าอาจไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านกำลังสื่อสารเพื่อขอความช่วยเหลือ
•ขณะขับขี่รถทางไกล บนเส้นทางบางจุดที่ล่อแหลม อาจพบเห็นชายฉกรรจ์สะพานปืนอาก้า เดินอยู่ริมถนนในที่เปลี่ยว ซึ่งนักเดินทางหลายท่านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกมาดักปล้นรถ แต่ที่จริงเป็น “ทหารบ้าน” (ภาษาลาวเรียก “กองหลอน”) ที่คอยป้องกันความสบ และดูแลความปลอดภัยให้กับรถที่สัญจรไป-มา บางครั้งอาจโบกรถท่าน เพื่อขอไปลงหมู่บ้านถัดไป หรือโบกเพื่อขอบุหรี่ ฯลฯ คงต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของนักเดินทางแต่ละบุคคลว่าควรจะช่วยเหลือแค่ไหน, หรืออย่างไร
http://pantip.com/topic/31393023
ข้อควรระวังและการขับขี่ยานพาหนะในประเทศลาว
การขับขี่รถยนต์ในลาวนั้น ลาวจะขับด้านซ้าย ส่วนไทยขับด้านขวาเมื่อข้ามไปฝั่งลาวต้องเปลี่ยนเลนถนนจากซ้ายไปขวา ก่อนขับขี่ ควรศึกษากฎการขับขี่ของลาวก่อนค่ะ
1. การขับขี่ในลาวนั้น ควรจะขับขี่อย่างระมัดระวัง เนื่องจากระบบการจราจรในลาว ไม่เหมือนในไทยบ้านเรา หากข้ามแดนไปแล้วรถต้องอยู่ด้านขวาชิดขอบขวาของถนน และ ห้ามขับขี่ด้วยความเร็วสูง เนื่องจากทางการลาวจำกัดความเร็วไม่เกิน 50 – 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง และรถทางโทมักไม่หยุดรอรถทางเอก สังเกตเห็นเมื่อเราข้ามฟากไปลาว เค้าจะไม่ค่อยขับขี่รถเร็วกันซักเท่าไหร่
2. เมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากไฟแดงเป็นไฟเขียว ควรออกรถอย่างระมัดระวังและดูถนนให้แน่ใจว่าไม่มีรถฝ่าไฟแดงจากด้านอื่น
3. ควรระวังอันตรายจาก รถจักรยานยนต์ และ สัตว์เลี้ยงต่าง ๆที่ตามริมถนน เช่น ฝูงวัวและแพะ ซึ่งอาจตัดหน้าในระยะกระชั้นชิดและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ เนื่องจากในลาวนั้น ริมถนนหนทางชาวบ้านจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงกัน แต่หากขึ้นไปบนเขา แล้วก็จะเห็นเป็นหมูป่าซะส่วนใหญ่
4. ห้ามพูดโทรศัพท์ระหว่างขับรถ
หากปฎิบัติตามกฎจราจรแล้วไม่ว่าจะอยู่เมืองใดก็สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจแล้วค่ะ
http://luangprabangtour.com/กฎการขับขี่ในลาว//