top of page

การข้ามถนนในประเทศเวียดนาม

     ประเทศเวียดนามติดอันดับต้นๆ ในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์บนถนนมากที่สุดในโลก สำหรับคนไทยแล้วสิ่งแรกที่ตื่นเต้นเร้าใจมากที่สุดเมื่อไปเยือนประเทศเวียดนาม คือ การจราจร (นอกเหนือจากการรับประทานเนื้อสุนัขที่นำเข้าจากประเทศไทย) ซึ่งคนเวียดนามส่วนมากจะใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะคู่กาย เพราะว่ารัฐบาลสนับสนุนให้ใช้แม้ว่าจะเป็นคนที่มีฐานะก็ตาม ซึ่งการใช้รถยนต์นั้นมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องสูงมาก ทั้งค่าที่จอดรถ ค่าภาษี รวมๆ แล้วต่อเดือนก็ไม่น้อยเลย แถมถ้าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กับมอเตอร์ไซค์แล้วรถยนต์เป็นฝ่ายเสียเปรียบอีก การจราจรที่เวียดนามกฎหมายเข้มงวดมาก เช่น การขับรถโดยใช้ความเร็วเกินกำหนดจะเสียค่าปรับสูงมาก สำหรับในตัวเมืองของประเทศเวียดนามกำหนดให้รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ขับได้ไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือว่าเป็นความเร็วในการขับรถที่ช้ามากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย

   การขับรถในประเทศเวียดนาม สิ่งแรกที่ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ก็คือ “แตร” ซึ่งมิได้หมายถึงการต่อว่ากันเหมือนในประเทศไทย แต่มันหมายถึงการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เป็นการบอกว่า “ฉันมาแล้วนะ” สิ่งต่อมาก็คือ เวลาขับรถไม่ต้องสนใจด้านข้าง ซ้าย ขวา หรือด้านหลังให้มากมาย  สิ่งที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ ด้านหน้า อย่าไปชนคนอื่นก็เป็นพอ สำหรับการขัามถนน ถ้าลองครั้งแรกจะหวาดเสียวมาก แต่พอข้ามไปเรื่อย ๆ ก็จะสนุกมาก เพราะว่าถ้าทำอย่างนี้ในประเทศไทยโดนชนไปนานแล้ว

หลักที่สำคัญสำหรับใช้ข้ามถนนที่ประเทศเวียดนาม คือ

1. ห้ามเดินถอยหลังเด็ดขาดก้าวออกไปแล้วก้าวต่อไปเรื่อยๆ ค่อยๆ เดินไปข้างหน้า อาจต้องยกไม้ยกมือส่งสัญญาณให้กับผู้ขับขี่เพื่อขอทาง แล้วค่อยๆ เดินฝ่าฝูงมอเตอร์ไซค์ไป

2. ทำจิตใจให้เข้มแข็ง และคิดในใจว่า เขาจะหลบเราเอง  

3. อย่าวิ่ง อย่าหยุดกลางถนน และอย่าลังเล

 

     การเดินข้ามถนนจึงเป็นอะไรที่ท้าทายมากเพราะแม้บนถนนจะมีทางม้าลายไว้เดินข้าม แต่จะไม่มีสัญญาณไฟสำหรับคนข้ามถนน  ยิ่งไปกว่านั้นหากได้ลองเดินข้ามถนนตรงวงเวียนจะยิ่งเพิ่มระดับความท้าทายขึ้นไปอีก เพราะวงเวียนไม่มีสัญญาณไฟจราจร สำหรับรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ จึงทำให้ไหลผ่านไปเรื่อย ๆ ต้องกะจังหวะดี ๆ ในการข้าม และพกความมั่นใจและใจกล้าที่จะเดินข้ามไป หรือทางที่ง่ายที่สุดคือ ข้ามถนนตามหลังคนเวียดนาม เพราะเขาช่ำชองในเรื่องนี้อยู่แล้ว อาจจะต้องทนโดนบีบแตรใส่ เพราะประเทศนี้มีการบีบแตรกันเป็นว่าเล่น

          หวังว่าบทความนี้ จะทำให้การใช้รถ ใช้ถนนของผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยว ติดต่อราชการ หรือประกอบธุรกิจในประเทศเวียดนามจะได้รับความสะดวก ปลอดภัยและราบรื่นเป็นอย่างดี

 

หมายเหตุ

 

แหล่งข้อมูล :  http://dplusguide.com/6-experience-must-try-in-vietnam/

                   http://hi-morning.blogspot.com/2012/09/blog-post_9.html

bottom of page